ปลัดก.ยุติธรรมลงนาม MOU กับคาร์เซลเพื่อผลิตเสื้อผ้า
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 เวลา 16.00 น. ศาสตราจารย์ (พิเศษ) วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่อง ความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาทักษะการออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้าให้ผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำ และหน่วยงาน Carcel โดย Mrs. Anne Veronica Faerge D’Souza , CEO and Founder of Carcel – Made In prison IVS ร่วมลงนาม และมีนางกรรณิการ์ แสงทอง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.อ. ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
สืบเนื่องมาจากข้อกำหนดสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำและมาตรการที่มิใช่การคุมขังสำหรับผู้กระทำความผิดที่เป็นหญิง (United Nations Rules for the Treatment of Women Prisoners and Non - custodial Measures of Women Offenders) หรือเรียกว่า ข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) ซึ่งมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแม้จะไม่มีฐานะเป็นกฎหมายก็ตามแต่ก็เป็นมาตรฐานในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิง ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในระดับสากลและประเทศต่างๆ ได้ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อยกระดับมาตรฐานของการราชทัณฑ์ของประเทศนั้นๆ โครงการกำลังใจได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมของผู้ต้องขังหญิงทั้งก่อนและหลังการปล่อยตัวเพื่อช่วยให้การกลับคืนสู่สังคมของผู้ต้องขังหญิงมีประสิทธิภาพสูงสุด และก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ต้องขังหญิงได้อย่างแท้จริง ผู้ต้องขังหญิงจึงต้องได้รับโอกาสหรือมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษารวมถึงการฝึกอาชีพ โดยในการฝึกวิชาชีพและงานที่จัดหาให้ในเรือนจำแก่ผู้ต้องขังหญิงนั้น หากมีความสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและเป็นการส่งเสริม หรือสร้างโอกาสให้ผู้ต้องขังหญิงได้รับการพัฒนาฝีมือและสร้างเสริมทักษะใหม่ๆ ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ย่อมเป็นการช่วยเหลือผู้ต้องขังหญิงให้มีความสามารถหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ และบริษัท Made In Prison IVS จำกัด ซึ่งมีชื่อทางการค้าว่า Carcel ได้ตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน โดย Carcel ผลิตเสื้อผ้าแนวสโลว์แฟชั่นที่ขายเสื้อผ้าหรูหราจากฝีมือบรรดาผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำ ดังนั้น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขังหญิง และเพื่อให้การกลับเข้าสู่สังคมของผู้ต้องขังหญิงประสบความสำเร็จตามข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) จึงนำมาสู่การริเริ่มโครงการ Carcel Garment Production ที่สามารถยกระดับและสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อสำนักกิจการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้รับการประสานงานจาก Carcel ว่าจะเข้ามาร่วมมือสนับสนุนกับโครงการกำลังใจฯ และที่ผ่านมาได้ประชุมหารือกันเกี่ยวกับการยกร่างบันทึกข้อตกลง หรือ MOU ระหว่าง กระทรวงยุติธรรม และ Carcel โดยมีผู้แทนจากกรมราชทัณฑ์ สำนักพัฒนาพฤตินิสัย กองนิติการ กองการต่างประเทศ ผู้แทนจากสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม สำนักกฎหมาย กองการต่างประเทศ และสำนักกิจการในพระดำริฯ และหน่วยงานทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ มาร่วมกันพิจารณาแล้วนั้น จึงเป็นที่มาของการจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ดังกล่าว โดยมีขอบเขตความร่วมมือ ดังนี้
1. กระทรวงยุติธรรม โดยโครงการกำลังใจ และ Carcel จะร่วมมือกันพัฒนาโครงการ Carcel Garment Production ให้สอดคล้องกับหลักจริยธรรมและเป็นไปตามกฎหมายของประเทศไทยและทั้งสองฝ่ายต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลาเพื่อรับหน้าที่ดูแลโครงการ ณ ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่
2. กระทรวงยุติธรรม โดยโครงการกำลังใจและ Carcel จะร่วมกันประเมินผลและประสิทธิภาพของโครงการโดยยึดถือตามข้อตกลงทุกๆ เดือน ตลอดช่วงระยะเวลา 6 เดือนแรก นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการในพื้นที่ซึ่งเป็นระยะเวลาทดลองงาน หลังจากนั้น Carcel จะพิจารณาและตกลงว่าจะต้องประเมินผลบ่อยครั้งเพียงใด โดยโครงการกำลังใจจะเขียนรายงานการประเมินผลโครงการเมื่อสิ้นสุดขั้นตอนในการทดลองโครงการ
3. กระทรวงยุติธรรม โดยโครงการกำลังใจ และ Carcel จะมีสิทธิรายงานความคืบหน้าและผลกระทบของโครงการต่อสื่อภายนอกได้ แต่อย่างไรก็ดีการติดต่อหรือรายงานทั้งหมดจะต้องสอดคล้องกับกฎหมายของประเทศไทยโดยเฉพาะกฎระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้องของกรมราชทัณฑ์
4. กระทรวงยุติธรรม โดยโครงการกำลังใจจะส่งเสริมให้มีการถ่ายทอดความรู้เรื่องการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules)
5. Carcel จะฝึกอบรมวิชาชีพในการตัดเย็บเสื้อผ้าตามที่ Carcel เป็นผู้ออกแบบให้แก่ผู้ต้องขังหญิง และเป็นฝ่ายจัดหาวัตถุดิบทั้งหมด โดยจะต้องใช้ผ้าไหม 100% ของประเทศไทยเท่านั้น รวมทั้งต้องรับผิดชอบในขั้นตอนของการนำเข้าอุปกรณ์ต่างๆ ตลอดจนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการจำหน่ายทั้งหมด
6. Carcel จะเป็นผู้จำหน่ายหรือขายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ร้านค้าของ Carcel
7. กระทรวงยุติธรรม โดยโครงการกำลังใจ จะร่วมกันจัดทำสัญญาในรายละเอียด เพื่อให้บรรลุภารกิจดังกล่าวข้างต้นต่อไป
