วันที่ 4 มิถุนายน 2568 โครงการกำลังใจฯ โดยกองพัฒนานวัตกรรมการยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) นำโดย นายปริญญา สุวรรณชินกุล เจ้าหน้าที่บริหารงานอาวุโส และนายสิปปวิชญ์ ครามะคำ วิทยากร จัดอบรมการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้แก่ผู้ต้องขัง มีผู้ต้องขังชายและหญิงเข้าร่วมอบรม จำนวน 30 คน โดยมี นายสามารถ เสงี่ยมไพศาล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม 
ในการนี้ วิทยากรได้ให้ความรู้เรื่องการเริ่มต้นขายสินค้าสินค้าออนไลน์ การวางแผนและการตรียมตัวก่อนขายสินค้าออนไลน์ เทคนิคการขายสินค้าออนไลน์ การขายสินค้าออนไลน์ทาง Social Commerce ที่สามารถซื้อขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม Facebook, Instagram, Tiktok หรือ Line OA เป็นต้น การสร้างสื่อโฆษณา (Content) ให้น่าสนใจ การจัดส่งสินค้าและช่องทางการชำระเงิน รวมถึงการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered) การโพสต์ขายของออนไลน์ที่สามารถทำได้และไม่ผิดกฎหมาย โดยมีหลักสูตรพิชิตธุรกิจออนไลน์ ประกอบด้วยเนื้อหา ดังนี้ Checklist 1 :  หาสินค้าให้ตรงใจ, Checklist 2 : รู้เขา รู้เรา เข้าใจธุรกิจ, Checklist 3 : เข้าใจเส้นทางการตัดสินใจซื้อของลูกค้า, Checklist 4 : อยากขายดี คอนเทนต์ต้องโดน, Checklist 5 : เริ่มต้นสร้างธุรกิจอย่างง่าย ๆ ด้วย Facebook, Checklist 6 : เสริมช่องทางการขายด้วย Instagram, Checklist 7 : เพิ่มการรับรู้แบรนด์ด้วย Tiktok, Checklist 8 : เพิ่มยอดขายและซื้อซ้ำด้วย Line OA, Checklist 9 : ปิดการขายยังไงให้ขายดี, Checklist 10 : จัดการหลังร้านแบบมืออาชีพ, Checklist 11 : ขายของออนไลน์ต้องรู้กฎหมายหลังเสร็จสิ้นการอบรม มีการทดสอบ 2 ชุด โดยชุดแรกเป็นแบบทดสอบของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) จำนวน 20 ข้อ ผู้ต้องขังสอบผ่านเกณฑ์ทุกคน และได้คะแนนสูงสุด 19 คะแนน แบบทดสอบชุดสองเป็นแบบทดสอบของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จำนวน 55 ข้อ ซึ่งต้องส่งตรวจคำตอบและจะประกาศผลภายใน 10 วัน เมื่อผู้อบรมสอบผ่านร้อยละ 70 จะได้ใบประกาศ  จากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน
ในวันที่ 5 มิถุนายน 2568 วิทยากรได้บรรยายในหัวข้อการสร้างคอนเทนต์ทางการตลาดบนสื่อออนไลน์แบบมือโปร และหัวข้อการสร้างแบรนด์ และการใช้ AI กับการตลาดออนไลน์ ในภาคบ่ายได้ให้ผู้อบรมฝึกปฏิบัติการหรือทำ Workshop ในหัวข้อเทคนิค การนำเสนอสินค้าออนไลน์ โดยให้แบ่งกลุ่มย่อย 4 กลุ่ม และนำผลิตภัณฑ์ของเรือนจำจังหวัดตรังมาทดลองนำเสนอแบบการไลฟ์สด โดยมีเทคนิคสำคัญของการไลฟ์สด 9 ข้อ ได้แก่

1. การเตรียมอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อสร้างสีสัน

2. การเตรียมเนื้อหา

3. การดึงดูดความสนใจ เช่น การเปิดตัวแบบกระตือรือร้น การกล่าวต้อนรับ การกล่าววัตถุประสงค์ การแสดงสินค้า ข้อเสนอพิเศษ

4. การกระตุ้นการมีส่วนร่วม

5. การกระตุ้นเชิงโต้ตอบ และการสาธิตสินค้าตัวอย่าง กระตุ้นให้มีส่วนร่วม

6. วัตถุประสงค์ที่ชัดเจน มีการสร้างความสงสัยใคร่รู้ บอกวัตถุประสงค์อีกครั้งเพื่อเน้นและย้ำข้อเสนอพิเศษ

7. การรักษาจำนวนผู้ชม ให้มีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง มีเซอร์ไพรส์

8.ปิดการขาย มีข้อเสนอพิเศษแบบจำกัดเวลา หรือจำนวนออเดอร์ กระตุ้นให้ลูกค้าดำเนินการทันที

9. หลังไลฟ์สด สร้างช่วงเวลาที่ไฮไลท์หรือวีดีโอสั้นจากไลฟ์แล้วแชร์บน Tiktok กระตุ้นให้ผู้ชมแชร์ประสบการณ์การใช้สินค้าเพื่อช่วยยืนยันคุณภาพ

ในวันที่ 6  มิถุนายน 2568 เป็นการทำเวิร์คช็อปนำเสนอการไลฟ์สด และมีกิจกรรมการแข่งขัน Live Commerce โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม นำเสนอสินค้าหรือบริการ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ขายทัวร์ทะเลตรัง กลุ่มที่ 2 ขายกะปิลิบง กลุ่มที่ 3 ขายลิปสติก กลุ่มที่ 4 ขายครีมไข่มุกขาวผสมบัวหิมะ ผู้อบรมทั้ง 4 กลุ่มได้นำเสนอสินค้าอย่างน่าติดตาม มีการใช้เทคนิคที่ได้อบรมอย่างถูกต้อง และกลุ่มที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ คือ กลุ่มที่ 1 ซึ่งสามารถทำการไลฟ์ตามเทคนิคครบทั้ง 9 ข้อ รวมทั้งมีลีลาการไลฟ์ชวนติดตาม ประทับใจผู้ชมและกรรมการจนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองและจะได้เป็นตัวแทนของเรือนจำจังหวัดตรัง เพื่อจัดทำคลิปการไลฟ์สดมาประกวดแข่งขันกับเรือนจำอื่นๆ ที่ได้จัดอบรมตามโครงการพัฒนาทักษะดิจิทัลฯ ต่อไป