Follow us on
25 ธ.ค. 2560
TIJ จัดงานครบรอบ 7 ปี การรับรองข้อกำหนดกรุงเทพฯ
TIJ จัดงานครบรอบ 7 ปี การรับรองข้อกำหนดกรุงเทพฯ
 
     เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2560 เวลา 09.00 น. นายพิทยา จินาวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักกิจการในพระดำริฯ เข้าร่วมการเสวนาเนื่องในโอกาสครบรอบ 7 ปี การรับรองข้อกำหนดกรุงเทพฯ จัดโดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย ณ ห้องโอเรียลเต็ล ชั้น 2 โรงแรมโอเรียลเต็ล เรสซิเดนซ์ ถ.วิทยุ กรุงเทพฯ 
     ในโอกาสครบรอบ 7 ปี ของการรับรองข้อกำหนดกรุงเทพ ในวันที่ 21 ธันวาคม 2560 นี้ สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา จัดการเสวนาภายใต้หัวข้อ “ก้าวที่พลาดกับโอกาสในการแก้ไข : มิติใหม่แห่งความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องขังหลังพ้นโทษ” (Beyond the Prison Walls: Multi-stakeholder Perspectives on Prisoner Rehabilitation and Reintegration) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในการส่งต่อผู้ต้องขังกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง “สังคมแห่งการให้โอกาส” ให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างยั่งยืน ศาสตราจารย์พิเศษ กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย และนายอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์ รองผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม Mr.Jeremy Douglas ร่วมกล่าวในนามของหน่วยงาน UNODC และนายวิทยา สุริยะวงค์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้กล่าวเปิดงาน จากนั้นสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทยได้มอบใบประกาศเรือนจำต้นแบบ ปี 2560 ให้แก่ เรือนจำ 4 แห่ง ได้แก่ เรือนจำกลางเชียงราย เรือนจำอำเภอฝาง เรือนจำกลางตาก และทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก โดยก่อนหน้านี้ในปี ๒๕๕๘ มีเรือนจำต้นแบบจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ เรือนจำจังหวัดอุทัยธานี ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ทัณฑสถานหญิงชลบุรี และเรือนจำกลางสมุทรสาคร 
     สำหรับการเสวนาในหัวข้อ “การคืนคนดีสู่สังคม : จากอดีตสู่ปัจจุบัน” ได้เชิญผู้เสวนา ได้แก่ พ.ต.อ ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายพิทยา จินาวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักกิจการในพระดำริฯ นางสาวมุกดา แก้วมุกด์ กรมการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และดำเนินการเสวนาโดยคุณณัฏฐา โกมลวาทิน อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงเรื่องการฝึกอาชีพผู้ต้องขังและการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย การคืนคนดีสู่สังคมให้หนทางที่กลับไปเป็นคนดีนั้นง่าย ให้รู้สึกง่ายที่จะทำความดี และรู้สึกว่ายากที่จะทำความชั่ว 
     นายพิทยา จินาวัฒน์ กล่าวว่า ในระยะแรกนั้นโครงการกำลังใจฯ ได้มาช่วยแก้ไขปัญหากลางน้ำ คือ ช่วยเหลือผู้ต้องขังให้ได้มีคุณภาพชีวิตดี ต่อมาได้ดำเนินงานช่วงกลางน้ำ มีการจัดประชุมกับศาลแล้วนำไปสู่การปรับปรุงกฎหมายยาเสพติด และช่วงปลายน้ำที่พบว่าเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษแล้วมีบางส่วนที่กลับมาสู่เรือนจำ จึงให้มีการดำเนินการเรื่องการพัฒนาทางเลือก (Alternative Development หรือ AD) เพื่อให้ผู้ต้องขังได้มีความรู้ความเข้าใจและน้อมนำศาสตร์พระราชาเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตของตนเอง จากกรณีที่ได้ดำเนินงานดอยรางโมเดลก็พบว่า ภูมิหลังของครอบครัวผู้พ้นโทษ เพื่อน สังคม การให้ความยอมรับ สภาพแวดล้อมในชุมชนมีส่วนสำคัญที่จะทำให้ผู้พ้นโทษเหล่านั้นประสบความสำเร็จในชีวิตหรือไม่ แม้ว่าเรือนจำและหน่วยงานต่างๆได้เตรียมความพร้อมให้แก่ผู้พ้นโทษเป็นอย่างดี ผู้พ้นโทษเองก็มีความตั้งใจดี แต่เมื่อมาพบกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะ ก็มีโอกาสที่จะหวนกลับมาเรือนจำอีก จึงต้องให้เขาคิดในแบบที่เรียกว่าการระเบิดจากภายใน และให้เจ้าหน้าที่เรือนจำเปรียบเสมือนพี่เลี้ยง ครู เป็นที่ปรึกษาให้และเรือนจำก็ส่งเสริมเรื่องการฝึกอาชีพที่ตลาดต้องการ
นางสาวมุกดา แก้วมุกด์ กล่าวว่า เมื่อผู้ผู้ต้องขังพ้นโทษแล้วก็สามารถขอรับการสนับสนุนในเรื่องค่าเดินทาง การสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย คนไร้ที่พึ่ง นอกจากนี้ยังช่วยประสานงานให้ได้รับสิทธิเช่นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ผู้พิการ เป็นต้น

 
*****************************************************************

รูปภาพประกอบ

โครงการกำลังใจ
ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา
เลขที่ 404 กระทรวงยุติธรรม ชั้น 8 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
โทรศัพท์ : 0 2142 0852
Copyright © 2016 โครงการกำลังใจ.All right reserved