วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 คณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ ประชุมติดตามผลการดำเนินงานโครงการกำลังใจฯและตรวจเยี่ยมเรือนจังหวัดนราธิวาส และเรือนจำชั่วคราวโคกยามู เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ย้ายมาในพื้นที่ใหม่ และมีพื้นที่ 95 ไร่ ปัจจุบันมีผู้ต้องขัง รวม 2,799 คน (ชาย 2,324 หญิง 475 คน) โดยในเรือนจำจังหวัดนราธิวาสได้มีการฝึกอบรมวิชาชีพต่างๆ โดยเฉพาะวิชาที่โครงการกำลังใจฯ สนับสนุน เช่น เสริมสวย, ตัดเย็บ, การดูแลผู้สูงอายุ, การวาดภาพ, ไพ่ยิปซี และการพัฒนาบุคลิกภาพ ในที่ประชุมผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาสแจ้งว่าผู้ต้องขังต้องการให้มีการอบรมต่อในเรื่อง ไพ่ยิปซี การดูแลผู้สูงอายุ และการพัฒนาบุคลิกภาพ ซึ่งที่ประชุมรับทราบและมอบหมายกระทรวงยุติธรรม และกองทุนกำลังใจฯ พิจารณาสนับสนุนต่อไป ช่วงบ่ายคณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ ได้ตรวจเยี่ยมเรือนจำชั่วคราวโคกยามู ซึ่งมีฐานการเรียนรู้ 15 ฐาน บนพื้นที่ 55 ไร่ ปัจจุบันมีผู้ต้องขัง 59 คน โดยส่วนใหญ่ฝึกอาชีพการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ มีการกระทำผิดซ้ำในปี 2565 ร้อยละ 9.57 ซึ่งการวางแผนหลังพ้นโทษของผู้ต้องขัง จะประกอบอาชีพ เกษตรกร ร้อยละ 27, ค้าขาย ร้อยละ 10 และรับจ้างในร้านเอกชน (โรงงาน) ร้อยละ 63 

คณะกรรมการกองทุนฯ เสนอแนวทางเชิญชวนให้ผู้ต้องขังทำงานในสถานประกอบการมากขึ้น และเสนอแนะการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในเรือนจำชั่วคราวโคกยามูและในแดนหญิง ซึ่งผู้บัญชาการเรือนจำเรือนจำแจ้งว่า เป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากได้ดำเนินการประสบผลสำเร็จมาแล้ว ในเรือนจำ จำนวน 5 แห่ง รวมทั้งจะมีการฝึกด้านเกษตรให้ผู้ต้องขังหญิงที่เป็นสิ่งที่เสริมความรู้ จากนั้นได้ลงพื้นที่ไปในแดนหญิงและเรือนจำชั่วคราวโคกยามู โดยในแดนหญิงมีการแสดงของผู้ต้องขังหญิง 2 ชุด และ ดูการสาธิตฝึกอาชีพในด้านต่างๆ เช่น ไพ่ยิปซี, การเพ้นท์ผ้าปาเต๊ะ, การฝีมือ และการชงชาชัก 

ทั้งนี้คณะกรรมการกองทุนฯ ได้พูดให้กำลังใจผู้ต้องขัง รวมถึงดูฐานการเรียนรู้ต่างๆ เช่น สวนผักหมุนเวียน, สวนหม่อนไหม, โรงเพาะชำต้นไม้, ซุ้มไม้เลื้อย, สวนผักชะอม, สวนผักบุ้งน้ำ, ผักยกแคร่, สวนมะพร้าวน้ำหอม, สวนปาล์มน้ำมัน, สวนยางพารา, แปลงสาธิตโคกหนองนาฯ, เลี้ยงไก่ชนิดต่างๆ, เลี้ยงเป็ดเทศ, เลี้ยงโคพื้นเมือง, เลี้ยงสุกร, กองงานปุ๋ยหมักชีวภาพวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 คณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ ประชุมติดตามผลการดำเนินงานโครงการกำลังใจฯและตรวจเยี่ยมเรือนจังหวัดนราธิวาส และเรือนจำชั่วคราวโคกยามู เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ย้ายมาในพื้นที่ใหม่ และมีพื้นที่ 95 ไร่ ปัจจุบันมีผู้ต้องขัง รวม 2,799 คน (ชาย 2,324 หญิง 475 คน) โดยในเรือนจำจังหวัดนราธิวาสได้มีการฝึกอบรมวิชาชีพต่างๆ โดยเฉพาะวิชาที่โครงการกำลังใจฯ สนับสนุน เช่น เสริมสวย, ตัดเย็บ, การดูแลผู้สูงอายุ, การวาดภาพ, ไพ่ยิปซี และการพัฒนาบุคลิกภาพ ในที่ประชุมผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาสแจ้งว่าผู้ต้องขังต้องการให้มีการอบรมต่อในเรื่อง ไพ่ยิปซี การดูแลผู้สูงอายุ และการพัฒนาบุคลิกภาพ ซึ่งที่ประชุมรับทราบและมอบหมายกระทรวงยุติธรรม และกองทุนกำลังใจฯ พิจารณาสนับสนุนต่อไป ช่วงบ่ายคณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ ได้ตรวจเยี่ยมเรือนจำชั่วคราวโคกยามู ซึ่งมีฐานการเรียนรู้ 15 ฐาน บนพื้นที่ 55 ไร่ ปัจจุบันมีผู้ต้องขัง 59 คน โดยส่วนใหญ่ฝึกอาชีพการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ มีการกระทำผิดซ้ำในปี 2565 ร้อยละ 9.57 ซึ่งการวางแผนหลังพ้นโทษของผู้ต้องขัง จะประกอบอาชีพ เกษตรกร ร้อยละ 27, ค้าขาย ร้อยละ 10 และรับจ้างในร้านเอกชน (โรงงาน) ร้อยละ 63 คณะกรรมการกองทุนฯ เสนอแนวทางเชิญชวนให้ผู้ต้องขังทำงานในสถานประกอบการมากขึ้น และเสนอแนะการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในเรือนจำชั่วคราวโคกยามูและในแดนหญิง ซึ่งผู้บัญชาการเรือนจำเรือนจำแจ้งว่า เป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากได้ดำเนินการประสบผลสำเร็จมาแล้ว ในเรือนจำ จำนวน 5 แห่ง รวมทั้งจะมีการฝึกด้านเกษตรให้ผู้ต้องขังหญิงที่เป็นสิ่งที่เสริมความรู้

จากนั้นได้ลงพื้นที่ไปในแดนหญิงและเรือนจำชั่วคราวโคกยามู โดยในแดนหญิงมีการแสดงของผู้ต้องขังหญิง 2 ชุด และ ดูการสาธิตฝึกอาชีพในด้านต่างๆ เช่น ไพ่ยิปซี, การเพ้นท์ผ้าปาเต๊ะ, การฝีมือ และการชงชาชัก ทั้งนี้ คณะกรรมการกองทุนฯ ได้พูดให้กำลังใจผู้ต้องขัง รวมถึงดูฐานการเรียนรู้ต่างๆ เช่น สวนผักหมุนเวียน, สวนหม่อนไหม, โรงเพาะชำต้นไม้, ซุ้มไม้เลื้อย, สวนผักชะอม, สวนผักบุ้งน้ำ, ผักยกแคร่, สวนมะพร้าวน้ำหอม, สวนปาล์มน้ำมัน, สวนยางพารา, แปลงสาธิตโคกหนองนาฯ, เลี้ยงไก่ชนิดต่างๆ, เลี้ยงเป็ดเทศ, เลี้ยงโคพื้นเมือง, เลี้ยงสุกร, กองงานปุ๋ยหมักชีวภาพ