21 ก.พ. 2566
คณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ ประชุมติดตามผลการดำเนินงานโครงการกำลังใจฯ และตรวจเยี่ยมบ้านกึ่งวิถี ปูลา รอยอ
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 คณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ ประชุมติดตามผลการดำเนินงานโครงการกำลังใจฯ และตรวจเยี่ยมบ้านกึ่งวิถี ปูลา รอยอ กาแลตาแป บ้านกึ่งวิถี ปูลา รอยอ กาแลตาแป เปิดดำเนินงานเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2563 โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ได้เสด็จมาเปิดบ้านกึ่งวิถี ปูลา รอยอ กาแลตาแป เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การช่วยเหลือผู้พ้นโทษที่ไม่มีบ้าน ไม่มีอาชีพ และนำรูปแบบ Halfway - House มาปรับใช้ ซึ่งมีรูปแบบบ้านกึ่งวิถีที่เป็นทางการจะมีที่บ้านกาแลตาแปแห่งเดียว ตั้งแต่เปิดดำเนินการถึงปัจจุบันมีสมาชิกในบ้าน 44 ราย และกลับมากระทำผิดซ้ำร้อยละ 13.64 การบริหารจัดการบ้านอยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติ และมีผู้นำชุมชนเข้ามาเป็นผู้จัดการบ้าน โดยทำงานร่วมกับสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนราธิวาส โดยในปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน 3 ราย ที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้ร่วมประชุมเพื่อร่วมวางแผนชีวิต ได้แก่ นายลุกมันต์ฯ ปัจจุบันทำงานช่างเชื่อมเหล็ก แต่ยังไม่มีที่พักจึงต้องขออาศัยในบ้านไปพลางก่อน และที่ประชุมเห็นชอบให้พักอาศัยในบ้านจนกว่าจะช่วยเหลือตนเองได้ นายอาซูวัณฯ สนใจเป็นช่างเชื่อมและช่างยนต์ แต่ในปีนี้ไม่มีหน่วยงานเปิดสอนช่างเชื่อมและช่างยนต์ และที่ประชุมเสนอให้หาหน่วยงานอื่นมาให้ความรู้และกระทรวงยุติธรรมจะสนับสนุนงบประมาณการอบรม นายอดุลย์ฯ ปัจจุบันไม่สามารถอ่าน เขียนภาษาไทยได้ แต่สนใจเป็นช่างเชื่อม และที่ประชุมเสนอให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) มาสอนให้อ่าน-เขียนภาษาไทยให้ได้ และให้ฝึกวิชาช่างต่อไป นอกจากนี้ คณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ ได้ประชุมร่วมกับกรมคุมประพฤติ ซึ่งกรมคุมประพฤติได้รายงานว่า มีหน่วยงานมาช่วยสนับสนุนการทำงานเป็นอย่างดี เช่น กรมชลประทาน, พลังงานจังหวัด, สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.), หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน) , หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน, ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นต้น ผู้อำนวยการกรมคุมประพฤติจังหวัดนราธิวาส และผู้จัดการบ้านกึ่งวิถีฯ ได้รายงานข้อขัดข้องในการดำเนินงาน โดยที่ประชุมเสนอแนวทางแก้ปัญหา ดังนี้
1. ปัญหาสมาชิกในบ้านมีน้อย แก้ปัญหาโดยประชาสัมพันธ์ในเรือนจำใกล้เคียง เช่น ยะลา, ปัตตานี, สงขลา, สตูล, และทำคลิปคนต้นแบบเพื่อเชิญชวนผู้ต้องขัง
2. ด้านกายภาพ เช่น ตลิ่งถูกน้ำกัดเซาะ, สะพานที่เป็นทางเข้าบ้านชำรุด แก้ปัญหาโดยผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ให้กรมโยธา และกรมเจ้าท่า มาให้คำแนะนำ และกรณีสะพานได้ขอให้เทศบาลเมืองช่วยพิจารณาสนับสนุน
3. การฝึกอาชีพและพัฒนาฝีมือแรงงานไม่สอดคล้องกับความต้องการของสมาชิก แก้ปัญหาโดย สรรหาหน่วยงานอื่นนอกเหนือจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน
4. การขาดแคลนวัสดุ อุปกรณ์ ที่จำเป็นต่อการฝึกอบรม เช่น ทีวี จอภาพ แก้ปัญหาโดย กองทุนกำลังใจฯ และกระทรวงยุติธรรมจะช่วยสนับสนุนเรื่องงบประมาณ
จากนั้น คณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ เยี่ยมชมกิจกรรมในบ้าน ได้แก่ การฝึกอาชีพในฐานต่างๆ บริเวณที่ตลิ่งถูกกัดเซาะ , มุมอ่านหนังสือของ กศน. และที่ทำการของบ้าน นอกจากนี้ คณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ ได้พูดคุยกับผู้พ้นโทษที่เป็นบุคคลต้นแบบ ซึ่งได้รับทุนจากกองทุนกำลังใจฯ ในปี 2565 และได้นำเงินทุนที่ได้จากกองทุนไปเสริมกับงานที่เคยทำอยู่แล้ว คือ เครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้า ซึ่งคนต้นแบบ กล่าวว่า ขอขอบคุณโครงการกำลังใจฯ ที่ให้การสนับสนุนเงินช่วยเหลือ ทำให้ทางบ้านเห็นว่าสามารถช่วยเหลือครอบครัวได้