วันที่ 12 ธันวาคม 2567 กองพัฒนานวัตกรรมการยุติธรรม ได้จัดโครงการปัญญาบําบัด เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ต้องขัง ณ เรือนจำกลางบางขวาง จังหวัดนนทบุรี โดยพระพรหมศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) เป็นพระวิทยากร โดยบรรยายกิจกรรมปัญญาบําบัดให้กับผู้ต้องขังชาย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 49 คน เรื่อง หลักในการรู้จักและเข้าใจตนเอง สิทธิเสรีภาพที่ไม่มีใคร มีไปมากกว่ากัน ชีวิตแต่ละคนไม่ได้มีใครมีโอกาสไปมากกว่ากัน เราทุกคนมีค่าเท่าเทียมกัน ไม่มีใคร มีอิสระไปมากกว่ากันเลย ทุกคนมีบทบาทและหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป แต่เราทุกคนก็มีค่าเท่าเทียมกัน เราจะใช้ชีวิตภายในกำแพง มีความสุขหรือความทุกข์มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นใคร เราอยู่ที่ไหน ความจริงแล้วเราอยู่ในโลกของความทุกข์ แล้วเราจะทำอย่างไรที่เราอยู่ในสถานภาพผู้ต้องขัง ขึ้นอยู่กับตัวเราว่าจะเอาชีวิตรอด ไปได้อย่างไรให้ไม่เป็นทุกข์ ซึ่งเราจะต้องเข้าใจ และทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ และทำใจของเราว่านั้นคือความสุข ไม่ต้องไปคาดหวังไปมากกว่านั้น “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” อย่าไปยึดมั่นกับความสุขและความทุกข์ และใช้บทเพลงในการบำบัดให้แง่คิด แก่ผู้ต้องขังเปลี่ยนความคิดเปลี่ยนใจให้เริ่มต้นใหม่ได้ ใช้แสงธรรมชี้นำทาง ให้รู้จักคำว่า “มนุษย์” อีกครั้ง ด้วยการยกจิตใจเราให้สูงขึ้น “ทุกข์” = ทนไม่ได้ “สุข” = ทนได้ง่าย และพระโคมเมือง  พัฒนาเมธีกูร  ได้บรรยายเล่าประสบการณ์ผ่านความทุกข์ ของตัวเองในช่วงเวลาหนึ่งที่เคยประสบมา ซึ่งจิตของเราจะอยู่กับความทุกข์ตลอด     มองแต่ความทุกข์ของตัวเองตลอด ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ให้เราเรียนรู้ว่าความทุกข์ ของเรามันเกิดจากอะไร  แล้วปรับความทนของเราให้มากขึ้น และให้ผู้ต้องขังร่วมกัน ทำแบบฝึกหัดทางด้านความคิดและอารมณ์ผ่านการเรียนรู้จากซาลาเปาที่นำมาเป็น ตัวอย่าง ให้ค่อยๆ พิจารณาไตร่ตรองผ่านการกระทำเหล่านี้ คือ ให้มีความรู้สึกตัวผ่านอายตนะทั้ง 6 ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมอบรมได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นถึงการจัดกิจกรรมและนำไปปรับใช้ชีวิตภายในเรือนจำ พร้อมทั้งให้ความร่วมมือในการรับฟังในบรรยายอบรมในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี