Follow us on

กิจกรรมกำลังใจ

22 พ.ค. 2568
จัดอบรมการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้แก่ผู้ต้องขัง ณ นราธิวาส

โครงการกำลังใจฯ ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) จัดอบรมการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้แก่ผู้ต้องขัง ณ เรือนจำจังหวัดนราธิวาส 
วันที่ 14 - 16 พฤษภาคม 2568 โครงการกำลังใจฯ โดยกองพัฒนานวัตกรรมการยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) นำโดย นายปริญญา สุวรรณชินกุล เจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส และนายสิปปวิชญ์ ครามะคำ วิทยากร จัดอบรมการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้แก่ผู้ต้องขัง โดยมี นายสุรินทร์ จันทร์เทพ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม มีผู้ต้องขังหญิงเข้าร่วมอบรม จำนวน 30 คน ณ เรือนจำจังหวัดนราธิวาส 
ประธานในพิธี กล่าวว่า มีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมเพื่อพัฒนาทักษะดิจิทัล ภายใต้โครงการกำลังใจฯ ให้แก่ผู้ต้องขัง ประจำปี 2568 เรือนจำจังหวัดนราธิวาส   มีความซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ที่ได้พระราชทานองค์ความรู้ให้แก่ผู้ต้องขังในหลายๆหลักสูตร อย่างต่อเนื่อง และขอขอบคุณโครงการกำลังใจฯ และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ที่ได้จัดการอบรมให้ผู้ต้องขังได้พัฒนาทักษะดิจิทัลทำให้ผู้ต้องขังมีความรู้
เพิ่มขึ้น นับว่าเป็นโอกาสที่ดีของผู้อบรมทุกคนที่ได้เข้าร่วมโครงการอบรมเพื่อ
พัฒนาทักษะดิจิทัล ภายใต้โครงการกำลังใจฯ จึงอยากให้ผู้ต้องขังทุกคนตั้งใจฝึกอบรม เพื่อจะได้นำความรู้และประสบการณ์ครั้งนี้ ไปปรับใช้ในการทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มของผู้ต้องขังใกล้พ้นโทษและผู้ที่สนใจ ในนามเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ขอขอบคุณ คณะวิทยากร ผู้ประสานงาน ที่กรุณามาให้ความรู้และสร้างประสบการณ์ การทำธุรกิจออนไลน์ เป็นการเปิดประสบการณ์อีก 1 อาชีพ ที่จะสร้างความพร้อมให้แก่ผู้ต้องขัง ได้กลับสู่สังคมภายนอกอย่างมั่นใจ โดยหวังว่าผู้ต้องขังที่เข้ารับการฝึกอบรม
ในครั้งนี้ จะได้รับความรู้อย่างเต็มที่
สำหรับการอบรมการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้แก่ผู้ต้องขัง ในวันแรก (วันที่ 14 พฤษภาคม 2568) วิทยากรได้อบรมหลักสูตรหัวข้อ 11 Checklists พิชิตธุรกิจออนไลน์ ซึ่งเป็นหลักสูตรของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ช่วยให้ผู้อบรมมีความรู้ และความเข้าใจด้านการขายสินค้าออนไลน์อย่างครบวงจรตั้งแต่เริ่มต้นหาสินค้า รวมถึงการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เข้าใจการทำธุรกิจเบื้องต้น รู้จักการวางแผนและการเตรียมตัวก่อนเริ่มต้นขายสินค้าออนไลน์ สามารถใช้แพลตฟอร์มของ Social Commerce ได้แก่ Facebook, LINE OA, Instagram และ TikTok ในการขายสินค้าออนไลน์ นําเสนอสินค้าและบริการ และดูแลลูกค้าได้ สามารถสร้างเนื้อหา (Content) ที่ส่งมอบคุณค่าให้กับผู้บริโภค และสร้างแบรนด์ของตัวเองได้ในอนาคต เรียนรู้ช่องทางการจัดส่ง ช่องทางการชําระเงิน และการดูแลหลังการขาย รวมไปถึงสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง เข้าใจในพื้นฐานและลงมือได้เองแบบง่ายๆโดยใช้งบประมาณน้อย ปัจจุบันหลักสูตรดังกล่าวได้รับการรับรองโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานอีกด้วย สำหรับหลักสูตร 11 Checklists พิชิตธุรกิจออนไลน์ ประกอบด้วยเนื้อหา ดังนี้
Checklist 1 : หาสินค้าให้ตรงใจ
Checklist 2 : รู้เขา รู้เรา เข้าใจธุรกิจ
Checklist 3 : เข้าใจเส้นทางการตัดสินใจซื้อของลูกค้า
Checklist 4 : อยากขายดี คอนเทนต์ต้องโดน
Checklist 5 : เริ่มต้นสร้างธุรกิจอย่างง่าย ๆ ด้วย Facebook
Checklist 6 : เสริมช่องทางการขายด้วย Instagram
Checklist 7 : เพิ่มการรับรู้แบรนด์ด้วย TikTok
Checklist 8 : เพิ่มยอดขายและซื้อซ้ำด้วย Line OA
Checklist 9 : ปิดการขายยังไงให้ขายดี
Checklist 10 : จัดการหลังร้านแบบมืออาชีพ
Checklist 11 : ขายของออนไลน์ต้องรู้กฎหมาย
ภายหลังการอบรมมีการทดสอบ 2 ชุด โดยชุดแรก คือ แบบทดสอบสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ซึ่งผู้ต้องขังสามารถสอบผ่านเกณฑ์ทุกคน และได้คะแนนสูงสุด 17 คะแนน (คะแนนเต็ม 20 คะแนน) และคะแนนเฉลี่ยรวมได้ 14.10 คะแนน และข้อสอบชุดที่ 2 เป็นแบบทดสอบของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งจะส่งไปตรวจกระดาษคำตอบและประกาศผลภายใน 10 วัน เมื่อผู้อบรมสอบผ่านร้อยละ 70 
จะได้รับใบประกาศจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน 
การอบรมวันที่สอง (วันที่ 15 พฤษภาคม 2568) นายสิปปวิชญ์ ครามะคำ วิทยากรได้บรรยายในหัวข้อการสร้างคอนเทนต์ทางการตลาดบนสื่อออนไลน์แบบมือโปร และหัวข้อการสร้างแบรนด์ และการใช้ AI กับการตลาดออนไลน์ ในภาคบ่ายได้ให้ผู้อบรมฝึกปฏิบัติการหรือทำ Workshop ในหัวข้อเทคนิคการนำเสนอสินค้าออนไลน์ โดยให้แบ่งกลุ่มย่อย 5 กลุ่ม และนำผลิตภัณฑ์ของเรือนจำจังหวัดนราธิวาสมาทดลองนำเสนอ
แบบการไลฟ์สด โดยมีเทคนิคสำคัญของการไลฟ์สด 9 ข้อ ได้แก่
1. การเตรียมอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อสร้างสีสัน
2. การเตรียมเนื้อหา 
3.. การดึงดูดความสนใจ เช่น การเปิดตัวแบบกระตือรือร้น การกล่าวต้อนรับ การกล่าววัตถุประสงค์ การแสดงสินค้า ข้อเสนอพิเศษ
4. การกระตุ้นการมีส่วนร่วม
5. การกระตุ้นเชิงโต้ตอบ และการสาธิตสินค้าตัวอย่าง กระตุ้นให้มีส่วนร่วม
6. วัตถุประสงค์ที่ชัดเจน มีการสร้างความสงสัยใคร่รู้ บอกวัตถุประสงค์อีกครั้งเพื่อเน้นย้ำ และย้ำข้อเสนอพิเศษ 
7. การรักษาจำนวนผู้ชม ให้มีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง มีเซอร์ไพรส์ 
8. ปิดการขาย มีข้อเสนอพิเศษแบบจำกัดเวลา หรือจำนวนออเดอร์ กระตุ้นให้กดตะกร้า
9. หลังไลฟ์สดสร้างช่วงเวลาที่ไฮไลท์หรือวีดีโอสั้นจากไลฟ์แล้วแชร์บนTiktok กระตุ้นให้ผู้ชมแชร์ประสบการณ์การใช้สินค้าเพื่อช่วยยืนยันคุณภาพ และประกาศวันเวลาที่ไลฟ์สดครั้งต่อไป
จากนั้น ผู้อบรมได้ทำการเวิร์คช็อปเป็นกลุ่มโดยใช้ 9 เทคนิคดังกล่าวเป็นแนวทางการเตรียมตัวไลฟ์สดในวันต่อไป
การอบรมวันที่สาม (วันที่ 16 พฤษภาคม 2568) เป็นการทำเวิร์คช็อปนำเสนอการไลฟ์สด และมีกิจกรรมการแข่งขัน Live Commerce โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่ม นำเสนอสินค้าหรือบริการ ได้แก่ 
กลุ่มที่ 1 ขายผ้าบาติก
กลุ่มที่ 2 ขายตุ๊กตาดอกไม้ถัก
กลุ่มที่ 3 ขายกระเป๋าสานอเนกประสงค์
กลุ่มที่ 4 ขายผ้ามัดย้อม
กลุ่มที่ 5 ขายกระเป๋าขัดลาย
ผู้อบรมทั้ง 5 กลุ่มได้นำเสนอสินค้าอย่างน่าติดตาม มีการใช้เทคนิคที่ได้อบรมอย่างถูกต้อง และกลุ่มที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ คือ กลุ่มที่ 1 ขายผ้าบาติก ซึ่งสามารถทำการไลฟ์ตามเทคนิคครบทั้ง 9 ข้อ รวมทั้งมีลีลาการไลฟ์ชวนติดตาม ประทับใจผู้ชมและกรรมการจนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาครอง และจะได้เป็นตัวแทนของเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อจัดทำคลิปการไลฟ์สดมาประกวดแข่งขันกับเรือนจำอื่น ๆ ที่ได้จัดอบรมตามโครงการพัฒนาทักษะดิจิทัลฯ ต่อไป

รูปภาพประกอบ

โครงการกำลังใจ
ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา
เลขที่ 404 กระทรวงยุติธรรม ชั้น 8 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
โทรศัพท์ : 0 2142 0852
Copyright © 2016 โครงการกำลังใจ.All right reserved