พระองค์ภาเสด็จเยี่ยมผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการกำลังใจในพระดำริฯ ดอยราง รุ่นที่ 6
ณ ตะวันฟาร์มและเสด็จร่วมกิจกรรมการอบรมผู้เข้าร่วมโครงการนำแนวทางศาสตร์พระราชามาปรับใช้กับผู้ต้องขังดอยราง รุ่นที่ 7
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 เวลา 11.25 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จเยี่ยมนายเอกพล อินต๊ะชัย ผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา รุ่นที่ 6 เรือนจำชั่วคราวดอยราง จังหวัดเชียงราย ซึ่งปัจจุบันได้ร่วมกับบิดา นายจันตุ้ย อินต๊ะชัย เปิดตะวันฟาร์ม และจดทะเบียนศูนย์วิสาหกิจชุมชน ตำบลบัวสลี อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่ได้น้อมนำแนวทางตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงหรือศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชมาปรับใช้ในการดำรงชีวิต และประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยมีพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย นางกรรณิการ์ แสงทอง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พันตำรวจเอก ดร.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ตลอดจนข้าราชการในพื้นที่ ประชาชน เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลบัวสลี (ตะวันฟาร์ม) อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย
ในการนี้ นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ ได้กราบทูลรายงานถึงการดำเนินงานของตะวันฟาร์มและการสนับสนุนของกรมคุมประพฤติและหน่วยงานต่างๆ จากนั้น นายคฑาสิทธิ์ เนื่องหล้า นายอำเภอ แม่ลาว กราบทูลรายงานถึงการดำเนินงานของศูนย์วิสาหกิจชุมชน ต่อมาพระเจ้าหลานเธอฯ ประทานเงินทุนให้กับนายเอกพล อินต๊ะชัย คนต้นแบบโครงการกำลังใจฯ และประทานของที่ระลึกให้กับสมาชิกศูนย์วิสาหกิจชุมชน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลี และผู้สนับสนุน จำนวน 46 ราย
หลังจากนั้น พระเจ้าหลานเธอฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการการดำเนินงานของตะวันฟาร์มและศูนย์วิสาหกิจชุมชน การฟักไข่ การเลี้ยงไส้เดือน การเลี้ยงกุ้งฝอย ทอดพระเนตรการสาธิตการปั้นอาหารกุ้งฝอยนิทรรศการการเพาะพันธุ์ปลา การสาธิตการทำฮอร์โมนไข่ นิทรรศการการปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์ การเลี้ยงหมูหลุม ต่อมาทรงให้อาหารปลาในบ่อเลี้ยงปลา ฉายพระรูปร่วมกับครอบครัวนายเอกพล บริเวณศาลาให้อาหารปลา แล้วเสด็จออกจากศาลาให้อาหารปลาไปยังหุ่นฟางและทรงเยี่ยมประชาชนที่เฝ้าฯ รับเสด็จ ในเวลา 14.28 น. พระเจ้าหลานเธอฯ เสด็จยังเรือนจำชั่วคราวดอยราง ทรงเปิดป้ายเรือนจำชั่วคราวดอยฮาง โดยมี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นางกรรณิการ์ แสงทอง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจเอก ดร.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ หม่อมราชวงศ์ ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานที่ปรึกษามูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมป์ ศาสตราจารย์(พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายพิทยา จินาวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักกิจการในพระดำริฯ เฝ้าฯ รับเสด็จ
ลำดับถัดมา นายพิรุณ หน่อแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย ทูลเกล้าถวายสูจิบัตร จากนั้น พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกราบทูลรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรม พันตำรวจเอก ดร.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์เบิกตัวผู้ให้การสนับสนุนเข้ารับประทานของที่ระลึก จำนวน 98 ราย ต่อมา พระเจ้าหลานเธอฯ เสด็จออกจากพลับพลาพิธีไปยังบริเวณป้ายชื่อเรือนจำชั่วคราวดอยฮาง ทรงดึงสายสูตรเปิดแพรคลุมป้ายชื่อเรือนจำชั่วคราวดอยฮาง แล้วทรงตัดแถบแพรเปิดร้านกาแฟสด โดยมีหม่อมหลวง ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ กราบทูลรายงานถึงการฝึกอบรมอาชีพบาริสต้าของผู้เข้าร่วมโครงการกำลังใจ รุ่นที่ 7 จำนวน 10 คน และการวางแผนธุรกิจของร้าน ขณะเดียวกัน พระเจ้าหลานเธอฯ ทรงชิมกาแฟฝีมือผู้ต้องขัง ซึ่งมีเมนู อาทิ เอสเพรสโซ่ อเมริกาโน่ คาปูชิโน่ ลาเต้ มอคค่า เป็นต้น
ต่อมาเสด็จยังบอร์ดนิทรรศการธรรมะกับชีวิตใหม่ ทรงกราบพระนิคม นิติธมฺโม เจ้าอาวาสวัดป่าญาณสัมปันโนอารยาราม ในการนำแนวทางของธรรมะเข้ามาใช้ในการปรับจิต ใจในการเตรียมพร้อมกลับคืนสู่สังคมของผู้ที่เคยพลั้งพลาด ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการกำลังใจ รุ่นที่ 6 ดอยราง ได้แก่ นายกิตติศักดิ์ มุดกาศ ฉายา โชติธมฺโม (ผู้มีธรรมเป็นเครื่องส่อง) ซึ่งพระเจ้าหลานเธอฯ ได้ทรงประทานผ้าไตรให้ จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการเรือนจำชั่วคราวดอยราง การสาธิตการฝึกอาชีพของผู้ต้องขังตามความต้องการ ได้แก่ อาชีพหม่าล่าจากร้านการ์ตูนหม่าล่า อาชีพเฟรนซ์ฟรายชีสจากร้าน Oh! My Cheese อาชีพพิซซ่าโฮมเมดและไก่ทอดมะแขว่นจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อาชีพทำไร่องุ่นจากไร่องุ่นอิงจันทรา อาชีพส้มตำจากร้านตำส๋ม อาชีพเพาะเห็ดจากเรือนจำชั่วคราวเขาพลอง ต่อมาทอดพระเนตรนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ ที่มาสนับสนุนการพัฒนาผู้ต้องขัง ได้แก่ กรมคุมประพฤติ ศูนย์ขวัญแผ่นดิน ร้าน Wanderer ปางควาย วิทยาลัยอาชีวศึกษา หอการค้าจังหวัดเชียงราย การซ่อมจักรยานจากวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกเชียงราย บ้านดำโดยนายดอยธิเบศวร์ ดัชนี และนายสมเพชร ยิ้มภาย ผู้เคยเข้าร่วมโครงการกำลังใจ รุ่น 6 ทูลถวายหินแกะสลักพระพิฆเนศวร ถัดมา ทรงฉายพระรูปร่วมกับข้าราชการและผู้สนับสนุนโครงการ
ช่วงท้าย เสด็จเข้าสู่ศาลาเอนกประสงค์ ประทานเค้กให้กับผู้แทนผู้ต้องขัง และทรงร่วมกิจกรรมสันทนาการ กับผู้ต้องขังกลับโครงการกำลังใจฯ รุ่นที่ 7 จากนั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ อภินันท์ อร่ามรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิชาการสารเสพติด กราบทูลรายงานถึงกิจกรรมการนำศาสตร์พระราชามาปรับใช้กับผู้ต้องขังและเชิญร่วมกลุ่มกิจกรรมการสะท้อนความเห็นของผู้นำชุมชน หน่วยงานภาคี และผู้ต้องขัง นางพจนารถ กรึงไกร ผู้แทนศูนย์ขวัญแผ่นดินกล่าวถึงการจัดกิจกรรมอบรมให้กับผู้ต้องขัง ถัดมา นายเอก ไก่ เล็ก หนุ่ม ตัวแทนผู้ต้องขังกล่าวถึงประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรม จากนั้น พระเจ้าหลานเธอฯ ทรงมีพระปฏิสันถารกับนายคมสัน นายจะเด็ด เกี่ยวกับความรู้สึก ความกลัวภายหลังพ้นโทษ
ในการนี้ พระเจ้าหลานเธอฯ มีพระดำรัสแก่ผู้เข้าร่วมโครงการกำลังใจ รุ่นที่ 7 ความว่า “กลับออกไปแล้วทุนประกอบอาชีพจะมีไหม หรือว่ากลับไปแล้ว เพื่อนบ้านหรือคนรอบข้างจะยอมรับไหม ก็เหมือนที่ได้รับการอบรมมาว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด อยู่ที่ใคร อยู่ที่ตัวเราทุกคนนั่นเอง ว่าถ้าเราอยากดูดี เราต้องสร้างความดีให้กับตัวเอง ผลสุดท้ายความเข้มแข็งนั่นแหละสำคัญที่สุด ก็ผ่านกันมาหลายรุ่น ผ่านกันมาหลายคน เราก็บอกอย่างนี้แหละ แต่คนที่ผ่านไปได้ก็คือคนที่ใจแข็งเท่านั้น ทุกอย่างที่อบรมมา เราคิดว่าเขาสอนมาดีแล้วล่ะ ทุกคนพูดได้ดีหมดเลย แต่ที่นี้พอไปเจอกับชีวิตข้างนอก มันก็จะกลับไปสู่สังคมเดิมๆ บ้าง อะไรบ้าง ทีนี้ก็ต้องรู้จักเลือกใช้ชีวิต รู้จักเลือกคิดในสิ่งที่ดี”
ต่อมา รองปลัดอบต.ตำบลแม่เปาเป็นผู้แทนชุมชนแม่เปานำเสนอเรื่องการกลับเข้าสู่ชุมชน ลำดับสุดท้าย นายจะเด็ด ตัวแทนผู้ต้องขังกล่าวความรู้สึกในการเข้าร่วมกิจกรรม และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ อภินันท์ อร่ามรัตน์ กล่าวปิด และทรงฉายพระรูปร่วมกับผู้เข้าร่วมโครงการกำลังใจ รุ่นที่ 7 ก่อนเสด็จกลับ
****************************************************************************
